Tuesday, March 12, 2024

แนวรับแนวต้านในตลาด Forex คืออะไร สำคัญอย่างไร?

แนวรับ แนวต้าน คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม

สำหรับการเทรด Forex ไม่มีใคร ไม่รู้จักแนวรับ แนวต้าน (support-and-resistance) เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องรู้ ก่อนไปศึกษาเรื่องอื่นๆ

แนวรับและแนวต้านเป็นตัวบ่งชี้เทคนิคที่สำคัญรูปแบบหนึ่ง ที่เทรดเดอร์นิยมใช้กันมาก เพื่อหาระดับราคาของสินทรัพท์ต่างๆ ที่เป็นไปได้ที่จะกลับทิศทาง

ระดับแนวรับ คือระดับราคาที่แรงกดดันในการซื้อแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันไม่ให้ราคาของคู่สกุลเงินลดต่ำลงไปอีก ระดับนี้ถือเป็นโอกาสในการออกออเดอร์ Buy ที่มีศักยภาพ เนื่องจากมันได้สะท้อนว่ามีแรงซื้อที่มากพอ ที่จะเข้าสู่ตลาดในราคาระดับนั้น

ในทางกลับกัน ระดับแนวต้าน คือระดับราคาที่แรงขายมีความแข็งแกร่งพอที่จะป้องกันไม่ให้ราคาของสกุลเงินเพิ่มขึ้นไปอีก ระดับนี้ถือเป็นโอกาสในการออกออเดอร์ Sell ที่มีศักยภาพ เนื่องจากมันได้สะท้อนว่ามีแรงขายมากพอที่จะเข้าสู่ตลาดในระดับนั้น

เทรดเดอร์สามารถใช้ระดับแนวรับ แนวต้าน ในการพิจารณาเข้าออเดอร์ อย่างไรก็ตาม ก็มีส่วนอื่นๆที่ต้องพิจารณาประกอบกัน ยิ่งการเทรดคู่ทองคำ (Xauusd)แล้ว แนวรับ แนวต้าน ก็ถูกทำลายอยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้นเทรดเดอร์จึงควรปรับกลยุทธ์การเทรดให้สอดคล้องตามทิศทางนั้น

แนวรับแนวต้าน ใช้เทรดได้กำไรจริงหรือ?

ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายๆอย่าง เท่าที่สังเกต ถ้ามันเป็นดีมานด์หรือซัพพลายที่แข็ง มันก็จะเด้ง แต่กลับตัวเลยไหม ขึ้นกับองค์ประกอบอื่นๆ เด้งไกลแค่ไหน ปกติขึ้นกับ Timeframe ว่าเป็นดีมานด์ซัพพลายของเฟรมไหน

ดีมานด์ซัพพลาย เป็นเทคนิคที่ดี แต่.. ต้องไม่ใช่เทคนิคหลักที่ใช้ ปกติผมใช้เป็นตัวร่วม เช่น ถ้าเทรดด้วยการเอลเลียตเวฟ หรือเวลาจะเข้าตามไดเวอร์เจนท์ ฮิดเดนไดเวอร์เจนท์ อีดีมานด์ซัพพลายนี่แหละ คือจุดที่เรามองหาคือสมมุติว่า เรามองว่าเดี๋ยวจบเวฟนี้ ละจะย่อนะ มันมักก็จะไปจบในแนวดีมานด์ซัพพลาย

หรือ สัญญาณมันเป็นไดเวอร์เจ้นท์แล้ว จะหักหัวกลับทิศตอนไหน ก็มักจะกลับในดีมานด์ซัพพลาย ก็มองหาเลย แต่…. ต้องใช้timeframe เดียวกันเท่านั้น อ่านเวฟ timeframe ไหน ก็ใช้ของ timeframe นั้น อ่านไดเวอร์เจนท์ timeframeไหน ก็ใช้ timeframe นั้น ไม่งั้นระวังเจ๊ง

แนวรับ แนวต้าน ใช้คู่กับเครื่องมืออะไร ถึงได้ผลดี

สำหรับอินดิเคเตอรืที่ใช้ประกอบรวมกับการเทรด แนวรับ แนวต้าน ก็เช่น Relative Strength Index (RSI) และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) เมื่อมีเครื่องมือเหล่านี้ช่วย จะทำให้การตัดสินใจเทรดบนแนวรับ แนวต้าน มีความแม่นยำมากขึ้น

สิ่งสำคัญคือการ Backtest  และ forword test สำคัญที่สุดครับ ถ้าอยากรู้ว่าระบบ Demand Supply ใช้ได้ ใช่ไม่ได้กับสินทรัพย์ตัวไหน strategy /risk reward ratio/ timeframe พวกนี้มันสัมพันธ์กันหมดครับอยู่ที่การ optimize หรือ manage

แนวรับแนวต้าน มีความสำคัญต่อนักลงทุนและนักเทรดดังนี้..

1. บ่งบอกถึงพฤติกรรมราคา: แนวรับ จะแสดงถึงระดับราคาที่แรงซื้อมีมากกว่าแรงขาย มีโอกาสที่ราคาจะเด้งกลับขึ้นไป แนวต้าน แสดงถึงระดับราคาที่แรงขายมีมากกว่าแรงซื้อ มีโอกาสที่ราคาจะถูกกดลง

2. ช่วยในการวางแผนการเทรด : เทรดเดอร์สามารถใช้แนวรับ แนวต้านเพื่อหาจุดเข้าออเดอร์ เช่น ซื้อที่แนวรับ เมื่อราคาเด้งกลับขึ้น หรือ ขายที่แนวต้าน เมื่อราคาทะลุแนวต้าน แต่ก็ควรใช้อินดิเคเตอร์อื่นช่วยวิเคราะห์ด้วย เช่น RSI

3. บ่งบอกถึงรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคา: แนวรับแนวต้าน ช่วยให้วิเคราะห์ทิศทางของราคาว่าเป็นขาขึ้น ขาลง หรือ Sideway

4. ช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น: แนวรับแนวต้าน ถือเป็นจุดที่มีนัยยะสำคัญ ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรซื้อ ขาย หรือถือออเดอร์ต่อดี

5. ช่วยให้บริหารความเสี่ยง: แนวรับแนวต้าน อาจจะเป็นโซนที่เทรดเดอร์ใช้เป็นจุด Stop Loss เพื่อลดความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม แนวรับแนวต้าน ไม่ได้เครื่องมือที่แม่นยำ 100% ราคาอาจทะลุแนวรับแนวต้านได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ข่าวสาร ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจต่างๆ

Related Articles